ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลกลายเป็นทรัพย์สินมีค่าขององค์กร การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลไม่เพียงเป็นความรับผิดชอบทางจริยธรรม แต่ยังเป็นข้อบังคับทางกฎหมายที่องค์กรทั่วโลกต้องปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ของไทยเพิ่งมีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบ ส่งผลให้องค์กรต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงบทลงโทษทั้งทางการเงินและชื่อเสียง
ความท้าทายของการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลหลายฉบับ
องค์กรในปัจจุบันไม่เพียงแต่ต้องปฏิบัติตาม PDPA เท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงกฎหมายคุ้มครองข้อมูลอื่นๆ ทั่วโลก เช่น GDPR ของสหภาพยุโรป, CCPA ของแคลิฟอร์เนีย หรือ LGPD ของบราซิล โดยเฉพาะธุรกิจที่มีลูกค้าหรือพันธมิตรในหลายประเทศ
ยกตัวอย่างเช่น บริษัทท่องเที่ยวในไทยที่มีลูกค้าจากยุโรป จะต้องปฏิบัติตามทั้ง PDPA และ GDPR ซึ่งมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันในบางประเด็น เช่น ระยะเวลาในการแจ้งเตือนกร��ีข้อมูลรั่วไหล หรือสิทธิในการลบข้อมูล
ความแตกต่างเหล่านี้สร้างความซับซ้อนในการบริหารจัดการข้อมูล และหากไม่มีเครื่องมือที่เหมาะสม อาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายโดยไม่ตั้งใจ
Trellix DLP: พันธมิตรในการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูล
Trellix Data Loss Prevention (DLP) เป็นโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อช่วยองค์กรในการปกป้องข้อมูลสำคัญและปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย โดยมีความสามารถที่โดดเด่นดังนี้:
1. การระบุและจัดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลอย่างอัตโนมัติ
Trellix DLP สามารถสแกนและระบุข้อมูลส่วนบุคคลทั้งที่อยู่นิ่ง (เช่น จัดเก็บในฐานข้อมูล) และข้อมูลที่กำลังเคลื่อนที่ (เช่น กำลังส่งผ่านอีเมล) โดยใช้เทคโนโลยี AI และ machine learning ที่ทันสมัย
ตัวอย่างเช่น ระบบสามารถตรวจจับเลขบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ หรือข้อมูลสุขภาพในเอกสารหลากหลายรูปแบบ แม้กระทั่งในรูปภาพ ทำให้องค์กรมองเห็นว่ามีข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ที่ไหนบ้างภายในระบบ
2. การป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลแบบเรียลไทม์
นอกจากการค้นหาและจัดหมวดหมู่ข้อมูลแล้ว Trellix DLP ยังสามารถป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลผ่านช่องทางต่างๆ โดยตั้งนโยบายการป้องกันที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของกฎหมาย
จากกรณีศึกษาของธนาคารแห่งหนึ่ง พนักงานพยายามส่งไฟล์ Excel ที่มีข้อมูลลูกค้าไปยังอีเมลส่วนตัว Trellix DLP สามารถตรวจจับและบล็อกการส่งข้อมูลนี้ได้ทันที พร้อมทั้งแจ้งเตือนทีมความปลอดภัย ช่วยป้องกันการละเมิด PDPA และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
3. การรายงานและตรวจสอบที่ครอบคลุม
หนึ่งในข้อกำหนดสำคัญของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลคือความสามารถในการแสดงหลักฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Compliance) Trellix DLP มีระบบรายงานอัตโนมัติที่ช่วยให้องค์กรสามารถแสดงความสอดคล้องกับข้อกำหนดต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รายงานเหล่านี้ไม่เพียงมีประโยชน์เมื่อถูกตรวจสอบเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้บริหารเห็นภาพรวมความเสี่ยงด้านข้อมูลส่วนบุคคลขององค์กร
ประโยชน์ที่องค์กรจะได้รับจาก Trellix DLP
การนำ Trellix DLP มาใช้ในองค์กรไม่เพียงช่วยปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังมอบประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย
- ลดความเสี่ยงจากค่าปรับและความเสียหายต่อชื่อเสียง - ป้องกันการละเมิดกฎหมายที่อาจนำไปสู่ค่าปรับสูงถึง 5 ล้านบาท (ตาม PDPA) และความเสียหายต่อภาพลักษณ์องค์กร
- เพิ่มความไว้วางใจจากลูกค้า - แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นในยุคดิจิทัล
- ปรับตัวได้ตามการเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย - ด้วยการอัพเดทกฎและนโยบายอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้องค์กรปรับตัวได้ทันท่วงทีเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดทางกฎหมาย
ในยุคที่ข้อมูลมีทั้งมูลค่าและความเสี่ยง การลงทุนในระบบป้องกันข้อมูลอย่าง Trellix DLP จึงไม่ใช่เพียงการตอบสนองต่อกฎหมาย แต่เป็นการลงทุนในความยั่งยืนขององค์กรในระยะยาว
หากองค์กรของคุณกำลังมองหาวิธีการยกระดับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูล Trellix DLP อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหา