FortiGate กับการรับมือภัยคุกคามจาก AI: การป้องกันองค์กรในยุคดิจิทัล

No photo has been attached.
  • พฤศภาคม 9, 2025
  • ข่าวสาร

FortiGate กับการรับมือภัยคุกคามจาก AI: การป้องกันองค์กรในยุคดิจิทัล

ภัยคุกคามทางไซเบอร์ในยุค AI

ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกของความปลอดภัยไซเบอร์ เมื่อเทคโนโลยี AI กลายเป็นอาวุธสำคัญสำหรับทั้งฝ่ายป้องกันและฝ่ายโจมตี แฮกเกอร์สามารถใช้เครื่องมือ AI สร้างการโจมตีที่แยบยลและปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว จากสถิติล่าสุดพบว่า การโจมตีที่ใช้เทคโนโลยี AI เพิ่มขึ้นกว่า 37% ในปี 2024 โดยเฉพาะการหลอกลวงแบบฟิชชิ่งที่ใช้ LLM สร้างข้อความที่น่าเชื่อถือและการโจมตีที่สามารถหลบเลี่ยงระบบรักษาความปลอดภัยแบบดั้งเดิม

ความท้าทายใหม่นี้ทำให้องค์กรต้องมองหาโซลูชันที่สามารถต่อกรกับภัยคุกคามอัจฉริยะได้ นี่คือจุดที่ FortiGate พร้อมความสามารถด้าน AI และ Machine Learning เข้ามามีบทบาทสำคัญ

FortiGate กับเทคโนโลยี AI ในการรักษาความปลอดภัย

FortiGate ได้พัฒนาระบบป้องกันที่ใช้ AI เป็นแกนหลัก ผ่านเทคโนโลยี FortiGuard AI ที่ทำงานร่วมกับ Security Processing Unit (SPU) โดยเฉพาะ ระบบนี้สามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลเพื่อตรวจจับรูปแบบที่ผิดปกติและการโจมตีที่ไม่เคยเห็นมาก่อนได้ในเวลาเรียลไทม์

ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีที่มี ransomware ตัวใหม่ที่ใช้ AI ในการหลบเลี่ยงลายเซ็นมาตรฐาน ระบบ ML ของ FortiGate จะวิเคราะห์พฤติกรรมของโปรแกรมนั้น แทนที่จะพึ่งพาเพียงฐานข้อมูลไวรัส เมื่อตรวจพบพฤติกรรมที่น่าสงสัย เช่น การเข้ารหัสไฟล์จำนวนมากในเวลาอันรวดเร็ว ระบบจะดำเนินการป้องกันทันทีแม้จะเป็นภัยคุกคามประเภทใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน

ฟีเจอร์หลักในการต่อสู้กับภัยคุกคาม AI
การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้และเอนทิตี (UEBA)

หนึ่งในความสามารถที่โดดเด่นของ FortiGate คือระบบ User Entity and Behavior Analytics ที่จะสร้างโปรไฟล์พฤติกรรมปกติของผู้ใช้และระบบในเครือข่าย เมื่อมีการใช้งานที่ผิดไปจากรูปแบบปกติ เช่น การเข้าถึงไฟล์ที่ไม่เคยเข้าถึงมาก่อน หรือการเข้าสู่ระบบในเวลาที่ผิดปกติ ระบบจะแจ้งเตือนและอาจดำเนินการป้องกันโดยอัตโนมัติ

ตัวอย่างจากกรณีจริง: บริษัทการเงินแห่งหนึ่งตรวจพบความพยายามเข้าถึงข้อมูลลูกค้าจากบัญชีผู้ดูแลระบบที่ถูกขโมยไป แม้แฮกเกอร์จะมีข้อมูลเข้าสู่ระบบที่ถูกต้อง แต่ FortiGate UEBA ตรวจพบว่าพฤติกรรมการใช้งานแตกต่างจากรูปแบบปกติของผู้ดูแลระบบคนนั้น จึงบล็อกการเข้าถึงและแจ้งเตือนทีมความปลอดภัย

AI Threat Intelligence

FortiGate ได้รับการอัปเดตฐานข้อมูลภัยคุกคามแบบเรียลไทม์จากเครือข่ายทั่วโลกของ Fortinet ระบบ AI จะวิเคราะห์ข้อมูลนี้เพื่อระบุแนวโน้มใหม่และปรับการป้องกันให้ทันสมัยอยู่เสมอ โดยไม่ต้องรอการอัปเดตจากทีมงานมนุษย์

ที่น่าสนใจคือ Fortinet Security Fabric ทำให้อุปกรณ์ FortiGate ทั่วโลกแชร์ข้อมูลภัยคุกคามร่วมกัน เมื่อมีการตรวจพบภัยคุกคาม AI ใหม่ในองค์กรหนึ่ง องค์กรอื่นๆ จะได้รับการป้องกันโดยอัตโนมัติภายในเวลาไม่กี่นาที

การป้องกัน Social Engineering ที่ใช้ AI

แฮกเกอร์ใช้ AI สร้างอีเมลหลอกลวง ข้อความ หรือแม้แต่การโทรศัพท์ด้วยเสียงปลอมที่สมจริงมากขึ้น FortiGate มีระบบตรวจจับเนื้อหาที่สร้างด้วย AI ที่อาจเป็นอันตราย โดยวิเคราะห์รูปแบบภาษา ลิงก์ และเอกสารแนบเพื่อระบุความพยายามหลอกลวง

ในกรณีหนึ่ง CEO ของบริษัทเทคโนโลยีเกือบถูกหลอกให้อนุมัติการโอนเงินผ่านอีเมลที่ดูเหมือนมาจาก CFO แต่ FortiGate ตรวจพบความผิดปกติในรูปแบบการเขียนที่สร้างจาก AI และเตือนก่อนเกิดความเสียหาย

เริ่มต้นใช้งาน FortiGate สำหรับการป้องกันภัยคุกคาม AI

การใช้ FortiGate เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคาม AI ไม่จำเป็นต้องซับซ้อน เริ่มต้นได้ด้วยขั้นตอนง่ายๆ

  1. อัปเดตเฟิร์มแวร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด เพื่อให้มั่นใจว่าคุณมีฟีเจอร์ AI/ML ทั้งหมด
  2. เปิดใช้งาน FortiGuard AI ในการตั้งค่าความปลอดภัย
  3. กำหนดค่า UEBA ให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมขององค์กร
  4. บูรณาการกับ FortiAnalyzer เพื่อการมองเห็นและการรายงานที่ดีขึ้น
  5. กำหนดนโยบายการแจ้งเตือนอัตโนมัติ เมื่อตรวจพบภัยคุกคาม AI

ในยุคที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนและชาญฉลาดมากขึ้นด้วย AI การใช้เครื่องมือป้องกันที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกันคือกุญแจสำคัญ FortiGate นำเสนอโซลูชันที่ครบวงจรด้วยความสามารถด้าน AI และ Machine Learning ที่ทันสมัย ช่วยให้องค์กรอยู่หนึ่งก้าวเหนือแฮกเกอร์

การลงทุนในระบบป้องกันที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไม่เพียงแต่ช��วยป้องกันความเสียหายในปัจจุบัน แต่ยังเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับภัยคุกคามในอนาคตที่จะซับซ้อนยิ่งขึ้น ด้วยการอัปเดตและเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ FortiGate เป็นเสมือนเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งและปรับตัวได้สำหรับองค์กรในยุคดิจิทัล

ย้อนกลับ
Page Parameter
Redirect Page homepage.xsp